วิธีส่งออกสินค้ามายังอาร์เจนตินา ระเบียบข้อบังคับการค้าและศุลกากร

      

 

1. ภาษีนำเข้า

การจำแนกภาษีอากรในอาร์เจนตินาใช้ระบบพิกัดศุลกากรแบบฮาร์โมไนซ์ (Harmonized Schedule หรือ HS) เป็นตัวกำหนด โดยมีการนำระบบการตั้งชื่อสินค้าร่วมของกลุ่มตลาดร่วมตอนใต้ (MERCOSUR Common Nomenclature) หรือที่เรียกว่า Nomenclatura Común del MERCOSUR (NCM) มาใช้เมื่อวันที่ มกราคม 1995

การจัดเก็บภาษีจะจัดเก็บตามมูลค่าต้นทุนสินค้า ค่าประกันภัย ค่าระวาง (Cost + Insurance + Freight or CIF) ของสินค้านำเข้า (ณ ท่าเรือหรือท่าอากาศยานที่นำเข้า) โดยอัตราภาษีนำเข้าโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 22 % โดยประมาณ

 

2. มาตรการกีดกันทางการค้า

กฎหมายพื้นฐานที่กระทบต่อการนำเข้าและส่งออกอยู่ในพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร (พ.ร.ก. 22,415)

ในปี ค.ศ. 2010 กลุ่ม MERCOSUR ได้อนุมัติพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร MERCOSUR ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ มกราคม 2012 จนถึงปัจจุบัน

แม้จะไม่มีกฎหมายสั่งห้ามบริษัทต่างชาติในการส่งผลกำไรจากธุรกิจกลับประเทศ แต่ข้อบังคับที่ออกโดยรัฐบาลอาร์เจนตินาในเดือนพฤศจิกายน 2011 ได้กำหนดว่าบริษัทต่าง ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจาก AFIP ในการแลกเปลี่ยนเงินสกุลท้องถิ่นเป็นเงินตราต่างประเทศ ถือเป็นอำนาจควบคุมโดยพฤตินัยที่บังคับใช้กับความสามารถในการส่งเงินกลับประเทศของบริษัทต่างชาติ ขณะเดียวกัน เงินรายได้จากการส่งออกจะต้องส่งกลับมายังอาร์เจนตินาและส่งเข้าธนาคารกลางภายใน 15 วัน (สำหรับสินค้าส่วนใหญ่) ทั้งนี้ กำหนดเวลาในการส่งเงินกลับนั้นแตกต่างกันไปตามประเภทสินค้า และข้อกำหนดนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาวะทางเศรษฐกิจ

บริษัทในอาร์เจนตินาที่ประสงค์จะทำธุรกิจนำเข้าจะต้องขึ้นทะเบียนผู้นำเข้าและส่งออกแห่งชาติ (National Registry of Importers and Exporters) โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและกระบวนการต่าง ๆ ค่อนข้างสะดวก

 

3. มาตรการกีดกันทางภาษีอากร

กลุ่ม MERCOSUR ได้ทยอยขจัดข้อจำกัดที่ไม่ใช่ภาษีทั้งหมดและข้อจำกัดทางการค้าอื่น ๆ กับสมาชิกผู้ก่อตั้ง (อาร์เจนตินา บราซิล ปารากวัย และอุรุกวัย) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006 ได้มีการล้มเลิกภาษีระหว่างกลุ่ม MERCOSUR กว่า 99% ให้เป็นศูนย์ ทั้งนี้ แผนการค้าเสรีภายในกลุ่ม  MERCOSUR ยังไม่ได้บรรจุน้ำตาลเข้าไปในรายการ แต่มีการรวมสินค้าบางประเภทอย่างเป็นทางการ อาทิ ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ และมีการจัดการอย่างแข็งขัน ตลอดจนใช้ข้อจำกัดเชิงปริมาณ (โควตา) ร่วมด้วย

สำหรับกลุ่มประเทศนอกพื้นที่ MERCOSUR นั้น อาร์เจนตินาและคู่ค้าใน MERCOSUR ได้จัดตั้งพิกัดอัตราภาษีร่วม (Common External Tariff หรือ CET) ของกลุ่มในวันที่ มกราคม 1995 ในช่วง 0-20% ซึ่งมีผลกับผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ อย่างไรก็ดี ผลิตภัณฑ์บางประเภทในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์อาจมีพิกัดอัตราภาษีถึง 35%

นอกจากนี้ ยังมีรายการสินค้าอ่อนไหวบางประเภทที่ได้รับการยกเว้นพิกัดอัตราภาษีร่วมชั่วคราว โดยกลุ่มแรกรวมสินค้าอ่อนไหว อาทิ เทคโนโลยีสารสนเทศและสินค้าทุน ขณะเดียวกัน ประเทศสมาชิก MERCOSUR สามารถกำหนดอัตราภาษีนำเข้าต่างจากพิกัดอัตราภาษีร่วมกับสินค้าบางประเภทได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2015 โดยใช้รายการสินค้ายกเว้น  (Exceptions List) ตามมติเลขที่ 58/10 CMC MERCOSUR

ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2012 เป็นต้นมา สินค้าทุนนำเข้าที่แข่งขันกับสินค้าที่ผลิตในประเทศจะต้องเสียภาษี 14% ส่วนสินค้าทุนนำเข้าที่ไม่มีสินค้าในประเทศทดแทนได้จะเสียภาษี 2%

สินค้ากลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) นั้นกำกับดูแลโดยการจัดเก็บภาษีแยกต่างหาก ซึ่งสิ้นสุดการบังคับใช้ในวันที่ 31 ธันวาคม 2015 ซึ่งหลังจากนั้น ภาษีนำเข้าทั้งหมดจะเริ่มหันมาใช้เป็นแบบเดียวกันในกลุ่มประเทศสมาชิก MERCOSUR ตามการจัดเก็บที่กำหนดตายตัว ส่วนสินค้าที่ไม่ได้ผลิตในประเทศกลุ่ม MERCOSUR ต้องเสียภาษีนำเข้าตั้งแต่ 0-16% เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ข่าว หนังสือ และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมบางประเภท เป็นต้น

ภาษีนำเข้านั้นจัดเก็บตามมูลค่า CIF ในอาร์เจนตินา นอกจากนี้ ยังมีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมและภาษีต่อไปนี้เพิ่มเติม

·        ค่าธรรมเนียมข้อมูลสถิติ 0.5% ตามมูลค่า CIF โดยมีข้อยกเว้นกับสินค้าบางประเภท (คอมพิวเตอร์และสินค้าโทรคมนาคม สินค้าทุน เชื้อเพลิง สินค้ากระดาษบางประเภท หนังสือ วารสาร ปืน สินค้าตัวอย่าง สินค้าจัดส่งฉุกเฉิน และสินค้าปลอดภาษี) ทั้งนี้ ไม่มีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมนี้ในเขตสมาชิกกลุ่ม MERCOSUR ระหว่างกัน

·        ภาษีมูลค่าเพิ่ม 21% หรือ 10.5% (ตามประเภทสินค้า) ตามมูลค่า CIF บวกภาษีและบวกค่าธรรมเนียมข้อมูลสถิติ

·        ภาษีมูลค่าเพิ่มขั้นสูง 20% หรือ 10% (ตามประเภทสินค้า) ตามมูลค่า CIF บวกภาษีและบวกค่าธรรมเนียมข้อมูลสถิติสำหรับสินค้านำเข้าเพื่อการจำหน่ายต่อทั้งหมด และยกเว้นสินค้าที่ผู้ใช้นำเข้าเองโดยตรง

·        ภาษีจากกำไร 6% จากสินค้าขายปลีกทุกประเภท ยกเว้นสินค้าที่ผู้ใช้นำเข้าเองโดยตรง ส่วนบุคคลธรรมดาต้องเสียภาษี 11%

·        ภาษีเงินได้ 1.5%

·        ภาษีสรรพสามิตจากสินค้าบางประเภท

·        ค่าธรรมเนียมปลายทาง/การตรวจสอบ 2%

·        ภาษีท้องถิ่น

·        อาจต้องจัดเก็บภาษีจากกำไรล่วงหน้า 3% จากสินค้า

มูลค่า CIF บวกภาษีและค่าธรรมเนียมข้อมูลสถิตินำเข้าเป็นการจัดเก็บภาษีในประเทศเบื้องต้น ด้วยเหตุนี้ ใบแจ้งหนี้ของผู้ผลิต/ผู้ให้บริการต่างชาติจะต้องรองรับการนำเข้าด้วย ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีจากกำไรนั้นสามารถนำไปหักออกจากภาษีเงินได้

ภาษีในประเทศ (กล่าวคือภาษีสรรพสามิต) จะจัดเก็บจากสินค้ายาสูบ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม น้ำเชื่อม สารสกัดและสารเข้มข้น โทรทัศน์ เครื่องบันทึกเทป เครื่องบันทึก และเตาไมโครเวฟ เป็นต้น และชำระโดยได้ใบรับรองหรือตราประทับบนตัวสินค้า ทั้งนี้ อัตราภาษีจะแตกต่างกันค่อนข้างมาก

กฤษฎีกาเลขที่ 690/2002 ได้กำหนดข้อยกเว้นในการชำระเงินค่าธรรรมเนียมข้อมูลสถิติไว้ดังนี้

·        สินค้านำเข้าบางประเภทเพื่อการสืบพันธุ์สัตว์หรือพืชผัก เสีย CET 0%

·        สินค้าสินแร่นำเข้าบางประเภทที่เสีย CET 0%

·        หนังสือ โบรชัวร์ และสื่อสิ่งพิมพ์ข่าวนำเข้า

·        สินค้าทุนและสินค้ากลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสารสนเทศและโทรคมนาคมนำเข้าประเภทใหม่

·        สินค้านำเข้าภายใต้กฎเกณฑ์การนำเข้าชั่วคราว

·        National Tax Bureau, Ministry of Economy

Dirección Nacional de Impuestos
Ministerio de Economía

อีเมลesalga@mecon.gov.ar

http://www.mecon.gov.ar/sip/basehome/dir1.htm

 

·   Technical Administration, Argentine Customs Bureau

Subdirección General Técnico Legal Aduanera
Dirección General de Aduanas (DGA)
Administración Federal de Ingresos Públicos - AFIP

Department of Customs

http://www.afip.gov.ar/
;

        http://www.afip.gov.ar/english/

 

 

4. มาตรการกีดกันที่ไม่ใช่ภาษี

ตั้งแต่วันที่ กุมภาพันธ์ 2012 การนำเข้าสินค้าทุกประเภทจะต้องได้รับอนุมัติล่วงหน้าจาก Administración Federal de Ingresos Públicos (AFIP- Argentine Tax and Customs Authority) ก่อน โดยสามารถยื่นใบสมัครผ่านระบบออนไลน์ AFIP ที่เรียกว่า MALVINA ซึ่งสามารถเข้าไปยัง Customs Brokers ได้ผ่านการยื่นหนังสือรับรองความประสงค์ในการนำเข้า (Sworn Affidavit of Intent to Import หรือ DJAI) โดยระยะเวลาและเกณฑ์ที่ใช้ในการอนุมัติการนำเข้านั้นคาดเดาได้ยากและไม่ได้มีการชี้แจงอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรหรือกำหนดขึ้นเป็นข้อบังคับแต่อย่างใด ขอแนะนำให้ผู้ส่งออกตรวจสอบว่าลูกค้าชาวอาร์เจนตินามี DJAI ที่ได้รับอนุมัติแล้ว รวมทั้งการอนุญาตจาก AFIP ในการซื้อเงินสกุลต่างประเทศที่จำเป็นต้องใช้ในการชำระค่าสินค้าก่อนจะจัดส่งสินค้า

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่รัฐยังใช้กฎระเบียบว่าด้วยสุขอนามัยพืช มาตรการปกป้องการนําเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้นซึ่งเกี่ยวข้องกับภาษีอากรเฉพาะ การตรวจสอบมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด และแนวทางปฏิบัติอื่น ๆ เพื่อยับยั้งการหลั่งไหลของสินค้านำเข้าและปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ

การนำเข้าสินค้าอ่อนไหว อาทิ เวชภัณฑ์ อาหาร ยากำจัดศัตรูพืช เวชภัณฑ์สัตวแพทย์ศาสตร์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ยุทธปัจจัย เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในห้องน้ำ และผลิตภัณฑ์อื่น จำต้องได้รับการอนุมัติล่วงหน้าจากรัฐบาล และยังมีสินค้าประเภทนี้หลายประเภทที่ต้องขึ้นทะเบียนและแสดงใบรับรองสุขอนามัยที่ออกโดยหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในประเทศผู้ส่งออก หรือปัจจัยสำคัญในการคุ้มครองสุขภาพมนุษย์ สัตว์ หรือพืช ส่วนยานพาหนะพิเศษ สิ่งพิมพ์ รองเท้า พรม และยานยนต์บางประเภทที่ใช้เป็นสินค้าต้นแบบจะต้องได้รับอนุมัติจากรัฐบาลก่อนนำเข้ามายังอาร์เจนตินา

การนำเข้าสินค้าเกษตรและสินค้าอาหารหลายประเภท เช่น ปศุสัตว์ พืช หัวพืช การตัดต่อพืช ลำต้นพืชใต้ดิน รากพืช ธัญพืช และผลิตภัณฑ์พืชจำต้องมีใบรับรองสุขอนามัยที่ออกโดยหน่วยงานที่มีอำนาจเกี่ยวข้องในประเทศผู้ส่งออก สินค้าสำหรับการบริโภคของมนุษย์จะต้องมีคุณลักษณะตามที่กำหนดและต้องติดฉลากและบรรจุหีบห่อตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด

 

    โควตา

         มีการใช้ระบบโควตาและกฎเกณฑ์พิเศษกับชิ้นส่วนยานยนต์ ข้อตกลงทวิภาคีด้านสินค้ายานยนต์ระหว่างอาร์เจนตินาและบราซิลกำหนดให้มีสิทธิพิเศษในการนำเข้าสินค้าสำหรับทั้งสองประเทศเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์ของกลุ่ม MERCOSUR และทั้งสองประเทศได้มีพันธะผูกพันต่างตอบแทนที่ซับซ้อนระหว่างกัน รัฐบาลอาร์เจนตินาได้กำหนดโควตาประจำปีแยกต่างหากที่ใช้กับตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของค่ายรถยนต์ต่างประเทศและผู้แทนจำหน่ายยานยนต์ ตลอดจนบริษัทและบุคคลทั่วไปอื่น ๆ ผู้ผลิตรถยนต์ต่างประเทศในกลุ่มสมาชิก MERCOSUR จะได้รับการปฏิบัติในระดับชาติ นอกจากนี้ อาร์เจนตินายังมีความตกลงทวิภาคีด้านสินค้ายานยนต์กับเม็กซิโกด้วย

    นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดโควตาชั่วคราวกับเคมีภัณฑ์อินทรีย์ (HS code 2915.90) ฟลูออไรด์อลูมิเนียม (2826.12) และเรซินปิโตรเลียม (3911.10)

 

5. ข้อกำหนดและเอกสารประกอบการนำเข้า

การอนุญาตการนำเข้า

    ตั้งแต่วันที่ กุมภาพันธ์ 2012 เป็นต้นไป อาร์เจนตินากำหนดให้ผู้นำเข้าทุกรายต้องขอและได้รับอนุมัติจากกรมภาษีและศุลกากรอาร์เจนตินา (Argentine Tax and Customs Authority หรือ AFIP) ก่อนที่จะนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ โดยต้องยื่นหนังสือรับรองความประสงค์ในการนำเข้า (DJAI) สำหรับธุรกรรมการนำเข้าแต่ละรายการเพื่อให้ AFIP ตรวจสอบ มีระยะเวลาการดำเนินการอย่างเป็นทางการ 15 วัน แต่มีคำร้องจำนวนมากที่ต้องรอการดำเนินงานเป็นเวลานานระหว่างการตรวจสอบ บริษัทหรือบุคคลทั่วไปในอาร์เจนตินาที่ประสงค์จะนำเข้าสินค้าจะต้องใช้บริการตัวแทนออกของรับอนุญาต (Customs Broker) เพื่อยื่น DJAI ผ่าน MALVINA ซึ่งเป็นระบบพิธีการศุลกากรออนไลน์ ในกรณีที่ไม่มีใบรับรองออกของรับอนุญาตระดับพิเศษเพื่อจัดการพิธีการนำเข้าด้วยตัวเอง สินค้าในคำร้องจะต้องมาถึงอาร์เจนตินาภายใน 180 วันนับจากวันที่ AFIP ให้สถานะ DJAI เป็น Salida” ซึ่งแสดงการอนุมัติการนำเข้า

 

ระเบียบและข้อจำกัดด้านเอกสาร

            รัฐบาลอาร์เจนตินาได้วางข้อกำหนดใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าและการรับรองจากกงสุลกับสินค้านำเข้าหลากหลายประเภท ซึ่งโดยทั่วไปครอบคลุม แต่ไม่จำกัดเพียงสินค้าอุปโภคบริโภค สิ่งทอ เสื้อผ้าและรองเท้า เครื่องจักรในอุตสาหกรรมการพิมพ์ และอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ

            นอกจากนี้ AFIP ยังได้ออกมติเลขที่ 3304 ว่าด้วยเรื่องขั้นตอนการตรวจสอบและการทำเอกสารใหม่สำหรับสินค้านำเข้าที่มาถึงอาร์เจนตินา ทั้งนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการนำระเบียบและขั้นตอนใดไปใช้และอย่างไร ดังที่กล่าวไปแล้วว่าระเบียบข้อกำหนดสินค้านำเข้ามายังอาร์เจนตินาได้เปลี่ยนแปลงไปมากในช่วงปีที่ผ่านมา จึงขอแนะนำให้ผู้ส่งออกทุกรายหารือกับผู้รับจัดการส่งสินค้าที่มีความสัมพันธ์กับตัวแทนออกของรับอนุญาตอยู่แล้ว หรือหารือกับตัวแทนออกของรับอนุญาตโดยตรงก่อนที่จะจัดส่งของเข้ามายังอาร์เจนตินา

 

เอกสารประกอบการนำเข้า/ส่งออก

การจัดส่งทางทะเล

            มีการกำหนดให้เตรียมเอกสารต่อไปนี้ในการจัดส่งสินค้าทางทะเล โดยไม่คำนึงถึงมูลค่าสินค้า

  • ใบกำกับสินค้า (ฉบับจริงและสำเนา ฉบับ)
  • ใบตราส่งสินค้าทางทะเล (สำเนาอย่างน้อย ฉบับเพื่อดำเนินพิธีการศุลกากร)
  • เอกสารแสดงรายการบรรจุหีบห่อ (ไม่ใช้เสมอไปกับสินค้าโภคภัณฑ์แบบส่งเป็นกองหรือหรือสินค้าที่เหมือนกันทุกประการในแง่ชนิด ลักษณะ ส่วนผสม หรือน้ำหนัก เป็นต้น)
  • ใบรับรองการประกันภัย (หากมีการประกันภัยโดยผู้ส่งออก)

 

การจัดส่งทางอากาศ

            มีการกำหนดให้เตรียมเอกสารต่อไปนี้ในการจัดส่งสินค้าทางอากาศทุกครั้ง โดยไม่คำนึงถึงมูลค่าสินค้า

  • ใบกำกับสินค้า (ฉบับจริงและสำเนา ฉบับ)
  • ใบตราสินค้าทางอากาศส่งสินค้า (จำนวนสำเนาขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของผู้นำเข้าและสายการบินที่ใช้บริการ)
  • เอกสารแสดงรายการบรรจุหีบห่อ

ใบกำกับสินค้าทุกใบจะต้องจัดทำเป็นภาษาสเปน โดยสามารถยื่นเอกสารภาษาอังกฤษพร้อมแนบฉบับแปลที่รับรองแล้วได้ ทางการจะรับเฉพาะเอกสารฉบับจริงเท่านั้น และจะต้องกรอกข้อความต้องไปนี้ในใบกำกับสินค้าทุกกรณี "DECLARO BAJO JURAMENTO QUE LOS PRECIOS CONSIGNADOS EN ESTA FACTURA COMERCIAL SON LOS REALMENTE PAGADOS O A PAGARSE, Y QUE NO EXISTE CONVENIO ALGUNO QUE PERMITA SU ALTERACION, Y QUE TODOS LOS DATOS REFERENTES A LA CALIDAD, CANTIDAD, VALOR, PRECIOS, ETC., Y DESCRIPCION DE LA MERCADERIA CONCUERDAN EN TODAS SUS PARTES CON LO DECLARADO EN LA CORRESPONDIENTE SHIPPER'S EXPORT DECLARATION."

 

·      ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าเป็นเอกสารที่ศุลกากรอาร์เจนตินาอาจเรียกใช้กับสินค้าอุปโภคบริโภค สิ่งทอ รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องจักรในอุตสาหกรรมการพิมพ์และเครื่องมือเครื่องจักร เคมีภัณฑ์อินทรีย์ ล้อรถ ชิ้นส่วนจักรยาน เหล็กแผ่นรีด ท่อเหล็กบางประเภท อุปกรณ์เครื่องปรับอากาศ ไม้อัด เส้นใย ของเล่น เกม ไม้กวาด และแปรง ระเบียบศุลกากรอาร์เจนตินาอาจใช้ในสถานการณ์หลากหลายประเภท ดังนี้

การควบคุมแหล่งกำเนิดสินค้าพิเศษ

            เพื่ออ้างสิทธิภาษีนำเข้าพิเศษเมื่อประเทศแหล่งกำเนิดได้ลงนามข้อตกลงทางการค้าที่รับรองสิทธิพิเศษดังกล่าว ดังในกรณีเดียวกับการนำเข้าสินค้าจากประเทศสมาชิก MERCOSUR หรือ ALADI (สมาคมการค้าเสรีละตินอเมริกา) กรมศุลกากรอาร์เจนตินากำหนดให้ยื่นเอกสารนี้เพื่ออนุญาตสิทธิพิเศษตามคำร้องของผู้นำเข้า

การควบคุมแหล่งกำเนิดสินค้าทั่วไป

            รัฐบาลอาร์เจนตินายังได้กำหนดใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้ากับสินค้าบางประเภท เช่น สิ่งทอ รองเท้า ฯลฯ โดยไม่คำนึงถึงประเทศแหล่งกำเนิด (มติเลขที่ MEOSP 39/96) มาตรการนี้นำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาในการนำเข้าต่างๆ ดังตัวอย่างต่อไปนี้

·         มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด

·         มาตรการตอบโต้การอุดหนุน

·         มาตรการปกป้องการนําเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น

·         โควตานำเข้า

·         สถิติการค้า

 

6. ข้อกำหนดในการติดฉลากและเครื่องหมายสินค้า

สำนักงานระเบียบทางการค้า (Bureau of Trade Regulation หรือ Dirección de Lealtad Comercial) ได้วางข้อกำหนดการติดฉลากสินค้าในอาร์เจนตินาภายใต้กฎหมายอาร์เจนตินาเลขที่ 22,802/83 โดยกำหนดว่าฉลากผลิตภัณฑ์จะต้องแสดงข้อมูลทั้งหมดที่ลูกค้าจำเป็นต้องรู้และข้อมูลดังกล่าวจะต้องถูกต้องและเป็นจริง

กฎหมายเลขที่ 22,802 ในปี 1983 หรือที่รู้จักกันในนามพระราชบัญญัติเครื่องหมายสินค้านั้นมีอำนาจแทนที่กฎหมายเลขที่ 11,275 ในปี 1923 กฎหมายฉบับปัจจุบันระบุข้อกำหนดทั่วไปเบื้องต้นในการติดฉลากสินค้าในประเทศและสินค้านำเข้า ดังนี้

มาตรา 1 สินค้าบรรจุหีบห่อทั้งหมดที่จำหน่ายในอาร์เจนตินาจะต้องแสดงข้อมูลบนฉลากที่พิมพ์ให้สามารถมองเห็นได้บนบรรจุภัณฑ์หรือาภชนะบรรจุ ดังนี้

ก)      ชื่อ (คำอธิบายผลิตภัณฑ์)

ข)      ประเทศแหล่งกำเนิด

ค)      คำอธิบายคุณภาพ ความบริสุทธิ์ หรือส่วนผสม

ง)       น้ำหนักสุทธิ

ส่วนสินค้าที่ไม่ได้บรรจุหีบห่อทั้งหมดที่จำหน่ายในประเทศจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดข้อ ก) ข) และ ค) ที่กล่าวมาข้างต้น

 

7. สินค้าห้ามนำเข้าและสินค้าควบคุม

รัฐบาลอาร์เจนตินาได้สั่งห้ามการนำเข้าสินค้าต่อไปนี้

· ของเล่นและผลิตภัณฑ์ดูแลเด็กที่มีส่วนผสมของพทาเลทเข้มข้นในระดับสูง (มติเลขที่ 583/2008 กระทรวงสาธารณสุข)

· ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่มีนิมีซูไลด์เป็นตัวยาสำคัญ (คำชี้ขาดเลขที่ 4430/2009 ANMAT)

· หลอดไฟฟ้าที่ให้แสงสว่างด้วยความร้อนเพื่อใช้ในที่พักอาศัยซึ่งรวมอยู่ภายใต้ HS Code 8539.22.00 โดยมีข้อยกเว้นหลอดไฟฟ้าที่มีกำลังไฟไม่เกิน 25 วัตต์และไม่เกิน 50 โวลต์ (กฎหมายเลขที่ 26473)

· เครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ที่ใช้แล้วบางประเภท และชิ้นส่วนของเครื่องดังกล่าว (มติเลขที่ 909/1994 MEOSP และฉบับแก้ไข หรือมติเลขที่ 748/1995 กฤษฎีกาเลขที่ 690/2002 ภาคผนวก XIV มติเลขที่ 89/2003 ME มาตร 7° เป็นต้น)

· อาหารและยาที่มีส่วนประกอบของโอลาควินดอกซ์ (มติเลขที่ 84/2007 SENASA)

· สี น้ำมันเคลือบเงา น้ำมันขัดเงาที่มีส่วนประกอบของตะกั่วเกิน 0.06 กรัมต่อมวลสารที่ไม่ระเหยง่ายทุก 1,000 กรัม (มติเลขที่ 7/2009 MoH)

· ยานยนต์ที่ใช้แล้ว (กฤษฎีกาเลขที่ 110/1999)

· รถจักรยานยนต์และพาหนะสองล้อที่ใช้แล้ว (มติเลขที่ 790/1992 กระทรวงเศรษฐกิจ)

· เสื้อผ้าและเครื่องประดับที่ใช้แล้ว (รหัสภาษี MERCOSUR 6309.00.10 และ 6309.00.90) จนถึงวันที่ มกราคม 2016 (กฤษฎีกาเลขที่ 2112/2010)

· เครื่องปลายทางโทรศัพท์ความถี่ระหว่าง 1880-1900 เมกะเฮิร์ตซ์ (มติเลขที่ SC 1994/1999)

· ยางรถยนต์ที่ใช้แล้วและยางหล่อดอก (รหัสภาษี MERCOSUR 4012.10.00 และ 4012.20.00 กฎหมายเลขที่ 25,626)

·         ฝ้ายดิบ (ที่ไม่ได้สางหรือหวี แข็งหรือกระด้าง) ตามมติเลขที่ SENASA 208/2003

· เศษชิ้นส่วนอันตรายที่เหลือหรือตกค้างทุกประเภท (กฎหมายเลขที่ 24051)

· วัตถุอันตรายบางประเภท (มติเลขที่ 750/2000, 845/2000, 182/1999 ฯลฯ)

 

8. การส่งออกสินค้าไปยังอาร์เจนตินา - ใบอนุญาต

นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 เป็นต้นมา รัฐบาลอาร์เจนตินาได้ดำเนินการตามกฎเกณฑ์ใบอนุญาตการนำเข้า ซึ่งกำหนดให้สินค้านำเข้าทุกชนิดมีใบอนุญาตแบบอัตโนมัติหรือใบอนุญาตแบบไม่อัตโนมัติ โดยประเภทหลังกำหนดให้ผู้นำเข้าจัดหาข้อมูลเพิ่มเติมแก่สำนักงานในกระทรวงเศรษฐกิจและการผลิต (MEP) ของอาร์เจนตินา เพื่อตรวจสอบและอนุมัติก่อนให้ผู้ส่งออกจัดส่งสินค้า

ปัจจุบัน อาร์เจนตินากำหนดให้มีใบอนุญาตแบบไม่อัตโนมัติสำหรับสินค้าเกือบ 600 หมวดหมู่ โดยกฎนี้ได้ขยายข้อกำหนดให้มีใบอนุญาตแบบไม่อัตโนมัติกับสินค้าหมวดหมู่อื่น ได้แก่ ชิ้นส่วนยานยนต์ ยางและท่อรถจักรยาน เคมีภัณฑ์ พลาสติก กระดาษ และวัสดุสำหรับการพิมพ์ อุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือน แล็ปท็อป ยานยนต์หรู เครื่องจักรเบ็ดเตล็ด อุปกรณ์และชิ้นส่วนเครื่องกล สินค้าผลิตเบ็ดเตล็ด จักรยานยนต์ สินค้ากีฬา เครื่องพ่นและเครื่องเก็บเกี่ยว แทรกเตอร์ สิ่งทอ ยางรถยนต์ และของเล่น นอกจากนี้ ข้อกำหนดใบอนุญาตแบบไม่อัตโนมัติยังบังคับใช้กับสินค้าในหมวดหมู่เพิ่มเติม ได้แก่ เสื้อผ้า เส้นด้ายและเส้นใย รองเท้า กระเป๋าถือและกระเป๋าเดินทาง สินค้าในครัวเรือนบางประเภท เครื่องจักรและเครื่องมือบางประเภท จักรยานยนต์ จักรยานและล้อจักรยาน และกระดาษบางประเภท

 

 

ใบอนุญาตแบบอัตโนมัติกับใบอนุญาตแบบไม่อัตโนมัติแตกต่างกันอย่างไร

            รัฐบาลอาร์เจนตินาได้กำหนดให้มีการแสดงใบอนุญาตการนำเข้าสินค้าเพื่อพิธีการทางศุลกากร ไม่ว่าจะเป็นใบอนุญาตแบบอัตโนมัติหรือแบบไม่อัตโนมัติ ข้อกำหนดนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรอาร์เจนตินาได้มีเวลาในการบ่งชี้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น (กล่าวคือการออกใบแจ้งหนี้ในมูลค่าต่ำกว่าที่เป็นจริงหรือการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรมในลักษณะอื่น) และรับข้อมูลเกี่ยวกับภาคธุรกิจอ่อนไหว

            แม้จะมีการกำหนดมติที่ตามมาสำหรับภาษีต่อรายการสินค้าแบบเจาะจง แต่สินค้าส่วนใหญ่ยังอยู่ภายใต้ข้อกำหนดให้มีใบรับรองแบบอัตโนมัติ (Licencia Automática de Importación - LAPI) ทั้งนี้ เพื่อให้ผ่านพิธีการศุลกากร ท่านต้องลงทะเบียนแบบฟอร์มใบสมัครกับ Under Secretariat of Foreign Trade Management ที่สำนักงานเลขาธิการกระทรวงอุตสาหกรรม การค้าและกิจการขนาดกลางและขนาดเล็ก (Secretariat of Industry, Commerce and mining) Secretariat of Industry, Commerce, and Small & Medium-Size Enterprises) โดยใช้เวลาดำเนินการ 48 ชั่วโมงทั้งกับการจัดส่งสินค้าทางอากาศและทางทะเล

            ในทางกลับกัน สินค้าส่งออกในหมวดหมู่สินค้าที่กล่าวมาข้างต้นจะต้องมีใบรับรองแบบไม่อัตโนมัติ (Licencias de Importación No Automáticas) ซึ่งกำหนดให้มีการยื่นเอกสารมากขึ้นต่อสำนักงานภายในกระทรวงเศรษฐกิจและการผลิตของอาร์เจนตินา เพื่อตรวจสอบและอนุมัติก่อนที่ผู้ส่งออกจะจัดส่งสินค้า หลังจากได้รับใบอนุญาตแล้ว ใบอนุญาตนี้จะมีอายุใช้งานได้ 60 วัน

 

มีสินค้าใดบ้างที่ได้รับการยกเว้นใบอนุญาต

การนำเข้าในกรณีต่อไปนี้ได้รับการยกเว้นจากข้อบังคับนี้ (มติเลขที่ SICM 150/1999)การนำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์ (FOB)

  • การนำเข้าภายใต้ “กฎเกณฑ์ของการไปรษณีย์”
  • การนำเข้าภายใต้ “กฎเกณฑ์ของตัวอย่างสินค้า”
  • การนำเข้าภายใต้ “กฎเกณฑ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์” เพื่อใช้รวมอยู่ในกระบวนการผลิต
  • สินค้าที่ครอบคลุมโดยกฤษฎีกาที่ 732/72 ว่าด้วยเรื่อง วิทยาศาสตร์ ศิลปะ เทคนิค และสุขภาพบุคคล” และของบริจาคภายใต้มาตรา 17 ของกฎหมายเลขที่ 23.871