ข้อมูลแรงงาน

สถิติด้านแรงงาน (ณ ไตรมาสที่ 4 ของปี ค.ศ. 2009) 

จำวนประชากร  36.4 ล้านคน
กำลังแรงงาน(A) 16.5 ล้านคน (ร้อยละ 45.4 ของประชากรทั้งหมด)        
แรงงานชาย 9.4 ล้านคน
แรงงานหญิง 7.1 ล้านคน
อัตราการว่างงาน  1.3 ล้านคน (ร้อยละ   8.1  ของกำลังแรงงาน)
กำลังแรงงานในภาคเอกชน 12.6 ล้านคน
กำลังแรงงานในภาครัฐ 2.6 ล้านคน
Beneficiary Employment Plan(B) 72,000 คน
 
(A) - บุคคลที่มีอายุ 14 ปีขึ้นไปที่ประสงค์จะทำงาน
(B) - เป็นโครงการของรัฐบาลที่ช่วยจัดหางานให้แก่คนที่ว่างงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแรงงานไร้ฝีมือ
 
INDEC รายงานว่า อัตราการว่างงานสำหรับปี 2553 อยู่ที่ประมาณร้อยละ 7.3 ของกำลังแรงงานหรือประมาณ 1.8 ล้านคน ถึงแม้จำนวนประชากรจะเพิ่มขึ้น แต่อัตราการทำงานยังคงที่เนื่องจากมีกำลังแรงงานบางส่วนที่ประสงค์จะไม่ทำงาน
ค่าแรงขั้นต่ำ

1. ปัจจุบัน อัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำตามกฎหมายอาร์เจนตินา คือ $3,600 เปโซ/เดือน (ประมาณ 455 ดอลลาร์สหรัฐ*มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2557 เป็นต้นไป (* อัตราแลกเปลี่ยนทางการ ณ วันที่ 17 มี.ค. 2557 1 ดอลลาร์สหรัฐ 7.9 เปโซ)

2. เนื่องจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนของเงินเปโซอาร์เจนตินากับเงินดอลลาร์สหรัฐ ค่าแรงขั้นต่ำในอาร์เจนตินาจัดว่าสูงเป็นอันดับที่ 2 ในภูมิภาคลาตินอเมริการองจากเวเนซุเอลาเมื่อคำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยนทางการ แต่ถ้าคำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดมืดของอาร์เจนตินาจะถือว่าต่ำกว่าหลายประเทศในภูมิภาค สูงกว่าเพียงเปรูและโบลิเวียเท่านั้น

3. ประเทศในลาตินอเมริกาที่เพิ่งมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำในปี 2557 ได้แก่ อาร์เจนตินา อุรุกวัย เวเนซุเอลา และบราซิล ส่วนปารากวัยเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคที่ไม่มีการปรับค่าแรงขั้นต่ำมาตั้งแต่ปี 2554

 

 
สิทธิแรงงานที่สำคัญ
อาร์เจนตินามีกฎหมายให้ความคุ้มครองสิทธิทางด้านแรงงานอย่างมาก โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
 
ชั่วโมงการทำงาน ตามกฎหมายแรงงานที่ 11.544 กำหนดให้เวลาทำงานห้ามเกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน หรือ 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ สำหรับงานกลางคืนห้ามเกิน 7 ชั่วโมงต่อวัน และสำหรับงานอันตรายตามที่กฎหมายกำหนด ห้ามเกิน 6 ชั่วโมงต่อวัน และไม่เกิน 36 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ นอกจากนี้ กฎหมายไม่อนุญาตให้นายจ้างจ้างแรงงานวันเสาร์และวันอาทิตย์เต็มวัน หากมีความจำเป็นนายจ้างสามารถจ้างได้ตั้งแต่ ช่วงบ่าย แต่จะต้องชำระเงินล่วงเวลาเป็น 2 เท่าของค่าจ้างปกติ ให้แก่ลูกจ้าง
 
ค่าล่วงเวลา  โดยทั่วไปการทำงานล่วงเวลาห้ามเกิน 3 ชั่วโมงต่อวัน หรือ 30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์หรือ 200 ชั่วโมงต่อเดือน ซึ่งนายจ้างจะต้องจ่ายค่าล่วงเวลา ½ เท่าของค่าจ้างปกติสำหรับวันจันทร์-วันศุกร์ และเป็น 2 เท่าสำหรับวันเสาร์ (หลัง 13.00 น.) และวันอาทิตย์
 
การลาพักผ่อน  จำนวนวันลาพักผ่อนจะขึ้นอยู่กับอายุการทำงานของลูกจ้าง โดยจะมีสิทธิลาอย่างน้อย 14 วัน หากทำงานยังไม่ถึง 5 ปี จนถึง 35 วัน หากทำงานมาแล้วมากกว่า 20 ปี นอกจากนี้ ลูกจ้างมีสิทธิลาเพิ่มในกรณีพิเศษต่างๆ อาทิ การลาคลอดบุตร แต่งงาน หรือเตรียมตัวสอบ ซึ่งลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินเดือนตามปกติในช่วงเวลาดังกล่าว หากเรียก
 
เงินเดือน  ตามผลการประชุมของ National Council of Employment, Productivity, and of the Adjustable Minimum Living Salary เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2554 ได้กำหนดให้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจาก 1,840 เปโซ เป็น 2,300 เปโซต่อเดือน
 
เงินพิเศษต่างๆ ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินพิเศษต่างๆ โดยนายจ้างเป็นผู้จ่าย อาทิ ค่าเลี้ยงดูครอบครัว เบี้ยประกันชีวิต และเงินพิเศษประจำปี (Sueldo Annual Complementario) จำนวน 2 ครั้งต่อปี กล่าวคือ วันที่ 30 มิถุนายน และวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี โดยมีอัตราเท่ากับร้อยละ 50 ของเงินเดือนปกติ นอกจากนี้ ยังมีค่าประกันสังคมและกองทุนผู้เกษียณอายุที่นายจ้างและลูกจ้างร่วมกันจ่ายเป็นประจำทุกเดือน
 
หน่วยงานสำคัญที่ดูแลด้านแรงงาน
กระทรวงแรงงาน การจ้างงาน และความมั่นคงทางสังคม (Ministry of Work, Employment, and Social Security) เป็นหน่วยงานระดับกระทรวง มีนาย Carlos Tamada ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีคนปัจจุบัน มีหน่วยงานหลักที่อยู่ภายใต้สังกัด จำนวน 3 หน่วยงาน ได้แก่
  • Superintendence of Occupational Risks
  • Administration Superintendence of Retirement and Pension Funds
  • Social Security Administration
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกันสังคมลูกจ้าง
  • กฎหมายที่ 20744 ว่าด้วยการจัดทำสัญญาการจ้างงาน มาตรา 80 กำหนดให้นายจ้างต้องปฏิบัติตามข้อผูกพันที่มีต่อสหภาพแรงงาน เช่น การออกใบรับรองการผ่านงานและการชำระเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ซึ่งนายจ้างสามารถจ่ายเงินสมทบแก่ระบบประกันสังคมและกองทุนสหภาพแรงงานได้โดยตรงหรือผ่านทางตัวแทน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของข้อผูกพันในสัญญาการว่าจ้างการทำงาน
  • กฤษฎีกาที่ 814/2001 ว่าด้วยการกำหนดอัตราเงินสมทบที่นายจ้างต้องจ่ายสำหรับประกัน สังคมของลูกจ้าง มาตรา 2 กำหนดให้นายจ้างต้องชำระเงินสมทบในสัดส่วนร้อยละ 17-21 ของเงินเดือน ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ
  • Administración Nacional de la Seguridad Social (ANSES) เป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลกองทุนประกันสังคมของอาร์เจนตินา แต่เดิมใช้ชื่อว่า Instituto Nacional de Previsión Social (INPS) แต่เมื่อปี ค.ศ. 1992 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ANSES พร้อมทั้งบูรณการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบประกัน สังคมไว้ภายใต้การดูแลของ ANSES เพียงหน่วยงานเดียว ถึงแม้ ANSES เป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้กระทรวงแรงงาน แต่มีความเป็นอิสระในการบริหารจัดการกองทุนประกันสังคม ต่อมา เมื่อปี ค.ศ. 2008  รัฐบาลได้โอนกองทุนบำนาญ (Private Pension Fund) จากการดูแลของ ANSES กลับมาอยู่ภายใต้การดูแลของฝ่ายบริหาร ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่หลายฝ่าย รวมถึงพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ซึ่งเกรงว่ารัฐบาลจะใช้กองทุนดังกล่าวเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองต่อไป  
กฎหมายที่เกี่ยวกับการประกันสุขภาพลูกจ้าง
  • ในโอกาสแถลงผลงานของรัฐบาลของประธานาธิบดี Cristina Fernández de Kirchner กล่าวต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ค.ศ. 2011 ระบุว่า อาร์เจนตินาเป็นประเทศเดียวภายในภูมิภาคลาตินอเมริกาที่ประชาชนเกือบร้อยละ 96 มีประกันสังคม ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดของภูมิภาคนี้
  • กฎหมายเกี่ยวกับการจัดทำประกันสุขภาพลูกจ้างเป็นกฎหมายคนละฉบับกับกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคมลูกจ้าง การบังคับให้นายจ้างจัดทำประกับสุขภาพลูกจ้างกำหนดไว้ในกฎหมายที่ 23.660 มาตรา 16 ซึ่งกำหนดสัดส่วนเงินสมทบที่นายจ้างจะต้องจ่ายให้กับกองทุนเพื่อรักษาสุขภาพของลูกจ้าง ดังนี้  
-  การจ่ายเงินสมทบของนายจ้างให้เทียบเท่ากับร้อยละ 6 ของเงินค่าจ้างของลูกจ้างแต่ละราย
-  การจ่ายเงินสบทมของลูกจ้างให้เทียบเท่าร้อยละ 3 ของเงินค่าจ้าง นอกจากนี้ หากมีผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากประกันสุขภาพของลูกจ้างเพิ่มเติม จะต้องจ่ายเงินสบทมเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ของเงินค่าจ้าง
-  สำหรับรัฐวิสาหกิจ การจ่ายเงินสมทบเพื่อประกันสุขภาพจะต้องไม่น้อยกว่าค่าเฉลี่ย 12 เดือนของเงินค่าจ้าง
 
กฎหมายการประกันความเสี่ยงจากการทำงานของลูกจ้าง
กฎหมายที่ 24.557 มาตรา 2 กำหนดให้นายจ้างจัดทำประกันความเสี่ยงจากการทำงานให้แก่ลูกจ้าง ซึ่งครอบคลุมอาชีพต่างๆ ดังนี้
               -  พนักงานและลูกจ้างที่ทำงานให้กับภาคราชการ
               -  ลูกจ้างที่ทำงานในภาคเอกชน
               -  บุคคลที่มีหน้าที่ในการให้บริการสาธารณะ
ฝ่ายบริหารแห่งชาติอาจขยายบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวให้ครอบคลุมอาชีพดังต่อไปนี้
-  คนทำงานในบ้าน
-  ผู้รับเหมาอิสระ
-  ลูกจ้างที่ให้การบริการโดยไม่มีสัญญาการจ้างงาน
-  พนักงานดับเพลิง
ทั้งนี้ มาตรา 3 ของกฎหมายดังกล่าวเอื้อให้นายจ้างสามารถจัดทำประกันด้วยตัวเอง หากมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ดังนี้
-  มีสภาพคล่องทางการเงินเพื่อที่จะจ่ายค่าชดเชยที่กำหนดไว้ในกฎหมายนี้
-  มีหลักประกันว่ามีการให้การดูแลรักษาสุขภาพและการบริการอื่นๆ กับลูกจ้าง
-  หากไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีคุณสมบัติดังกล่าวนายจ้างจะต้องจัดทำประกันให้กับลูกจ้าง
 
สำหรับแผนอัตรา (rate scheme) บริษัทประกันความเสี่ยงจะกำหนดแผนอัตราของตนเอง เพื่อกำหนดอัตราการจ่ายเงินค่าประกันของแต่ละสถานประกอบการ โดยผู้ดูแลการประกันแห่งอาร์เจนตินา (Argentine Superintendence of Insurance)จะเป็นผู้อนุมัติแผนอัตราดังกล่าว โดยพิจารณาจากสถิติการเจ็บป่วยและบาดเจ็บในสถานที่ประกอบการแต่ละราย ดังนั้น ค่าประกันความเสี่ยงจากการทำงานของสถานที่ทำงานแต่ละแห่งจะไม่เท่ากัน